แมวท็องกินีส

แมวท็องกินีส Tonkinese cat

แมวท็องกินีส(cscb) เป็นแมวลูกผสมระหว่างแมววิเชียรมาศ(cscs) และแมวเบอร์มีส(cbcb) ซึ่งไม่สามารถทำให้เป็นพันธุ์แท้ได้ แมวท็องกินีสจะมีโครงสร้างของแมว2ชนิดอยู่ด้วยกัน คือวิเชียรมาศ(cs) และเบอร์มีส(cb) เมื่อนำแมวท็องกินีส2ตัวมาผมกัน ลูกจะกลับออกมาได้ทั้งเบอร์มีสและวิเชียรมาศ

แต่ในทางสมาคมต่างประเทศและผู้ที่บรีดแมว เขาจะเรียกรวมลูกๆว่าแมวท็องกินีสทั้งหมด ไม่ว่าจะออกมาเป็นแมวเบอร์มีสหรือวิเชียรมาศก็ตาม จึงทำให้บางครั้งชาวต่างชาติสับสนเรียกแมววิเชียรมาศว่าแมวท็องกินีส เป็นต้น ฯ

นอกเหนือจากนี้แล้ว แมวในตระกูลหน้ากาก (แมววิเชียรมาศ, แมวเบอร์มีส, แมวท็องกินีส) ยังสามารถเกิดลูกได้จากแมวชนิดอื่นๆอีกด้วย เนื่องจากยีนส์ของแมวตระกูลหน้ากากเป็นยีนส์ตัวเล็ก(ด้อย) สามารถแฝงกับแมวอื่นได้ทุกชนิด (Heterozygous) เมื่อยีนส์แฝงจับคู่กันก็จะให้ลูกออกมาเป็นแมวในตระกูลหน้ากาก

เช่น
แมวดำโกนจาที่มียีนส์แฝงเบอร์มีส Ccb BB DD
แมวดำโกนจาที่มียีนส์แฝงวิเชียรมาศ Ccs BB DD

สามารถออกลูกมาเป็นแมวท็องกินีสและแมวดำโกนจาได้
C_ BB DD แมวดำโกนจา
cscb BB DD แมวท็องกินีส

---

ปล.เป็นภาพจากเว็บไซต์ต่างประเทศ นำมาปรับเป็นภาษาไทยให้เข้าใจง่ายขึ้น /หน้าตาแมวในภาพอาจจะแปลกไปหน่อย

ดวงตาของแมวในกลุ่มหน้ากาก และแมวศุภลักษณ์ที่ไม่มีหน้ากาก

แมวท็องกินีส คนไทยส่วนใหญ่เข้าใจว่าคือแมวต่างประเทศหรือแมวฝรั่ง ความจริงแล้วแมวท็องกินีสคือแมวไทย มีต้นกำเนิดในประเทศไทยโดยแท้จริง ชาวต่างชาติยอมรับว่าแมวในตระกูลหน้ากาก (วิเชียรมาศ, เบอร์มีส, ท็องกินีส) นั้นต้นตระกูล Origins มาจากเมืองไทย แต่ในประเทศไทยกลับยังไม่มีชื่อไทย จึงทำให้คนไทยเข้าใจว่าแมวท็องกินีสนั้นคือแมวนอก

ในตำราสมุดข่อยสมัยอยุธยาฯ มีบันทึกแมววิเชียรมาศอายุกว่า 300-400ปี จึงทำให้มีชื่อเรียกแบบไทย ส่วนแมวเบอร์มีสและแมวท็องกินีสพึ่งจะมาค้นพบกันจริงๆคือช่วงต้นกรุงรัตนโกสินทร์หลังสมัยรัชกาลที่ ๕ จึงทำให้ชาวตะวันที่เข้ามา นำแมวไทยบางชนิดออกไปบรีดและจดทะเบียน แมวไทยหลายชนิดจึงถูกชาวตะวันตกเรียกชื่อสากลที่ตั้งขึ้นใหม่มาก่อนคนไทย ซึ่งในภายหลังเราคนไทยก็ต้องกลับไปเรียกชื่อแมวนั้นๆตามชาติตะวันตกอีกทีนึง ถึงว่าแมวแมวไทยหลายชนิดจะมีต้นกำเนิดในเมืองไทย

แมวท็องกินีสนั้นตามที่ได้กล่าวไปขั้นต้น เกิดจากการผสมของแมววิเชียรมาศ&แมวเบอร์มีส จึงทำให้ค่ากลางของมันไม่คงที่ กล่าวคือ แมวท็องกินีสแต่ละตัวจะมีลักษณะที่ไม่เหมือนกันเท่าใดนัก จึงทำให้การถาม-ตอบ นั้นยากพอสมควร สิ่งที่เราสามารถสังเกตุได้ง่ายที่สุดคือ “สีตา” แมวท็องกินีสส่วนใหญ่ดวงตามีสีเขียว, สีเขียวเหลือบฟ้า, สีเหลืองเหลือบเขียว

แต่ทั้งนี้และทั้งนั้น สีขนของมันจะต้องไม่ใช่ทั้งแมวเบอร์มีสและแมววิเชียรมาศด้วย

• แมวท็องกินีสที่มีดวงตาสีเขียว มักจะเป็นค่ากลาง คือการผสมสีอย่างลงตัว แมวท็องกินีสประเภทนี้จะมีขนสีนมกาแฟ สีครีมๆ+สีน้ำตาลอ่อน ถ้าใครเห็นคงจะร้องอ๋อ

• แมวท็องกินีสที่มีดวงตาไปทางสีฟ้า ถ้าใครดูไม่เป็นมักจะเข้าใจว่ามันคือแมววิเชียรมาศ แต่แมวท็องกินีสที่มีดวงตาไปทางสีฟ้านั้น สีขนมักจะดำ-แดงคล้ายแมวแมวเบอร์มีส

• แมวท็องกินีสที่ดวงตาไปทางสีเหลือง แน่นอนว่าคนที่ดูไม่เป็นก็จะคิดว่ามันเป็นแมววิเชียรมาศ เพราะแมวท็องกินีสที่ดวงตาสีไปทางเหลือบเหลือง สีขนมันจะอ่อนคล้ายแมววิเชียรมาศ

นอกเหนือจากแมวท็องกินีสในประเทศไทยแล้ว ในต่างประเทศยังนำยีนส์แมวไทยไปปรับเปลี่ยนลักษณะอีกมากมาย เช่น แมวเปอร์เซีย, แมวสก็อตติช, แมวโอเรียนทัล ฯลฯ และอีกมายมาก…

โดยแมวเมืองนอกที่มียีนส์ของแมวไทยท็องกินีส ชาวต่างชาติมักจะเรียกว่า Mink หรือ Mink point ซึ่งจริงๆแล้วมันก็คือแมวที่เป็นท็องกินีสนั่นแหละ แต่ลักษณะทางกายภาพจะเปลี่ยนไป เช่น ขนยาว, หน้าบี้, หน้ายาว, ตัวสูง หรือยีนส์นี้เข้าไปอยู่ในแมวพันธุ์ต่างๆ เขาจึงหาข้อจำแนกมาแยกแมวท็องกินีสออกจากแมวพันธุ์ ว่า Mink

นอกจากนี้แล้ว ในกลุ่มแมวไทยหน้ากากชนิดอื่นยังถูกตั้งชื่อใหม่อีกด้วย เช่น

• พันธุ์แมววิเชียรมาศไปอยู่ในแมวชนิดใด เขามักจะเรียก Point เฉยๆ หรือบางครั้งก็ Seal point หมายถึงแมวหน้าดำ, แต้มดำ

• แมวเบอร์มีส เมื่อพันธุกรรมไปอยู่ในแมวบางชนิด เขาจะเรียกว่าแมวสี Sepia 

แต่ไม่ว่าเขาจะเรียกแมวของเขาว่าอะไรก็ตาม สิ่งหนึ่งที่ทำให้เราได้เห็นนั่นก็คือ ยีนส์แมวไทยได้เข้าไปมีอิทธิพลอย่างสูงในต่างประเทศ ซึ่งในหลายๆครั้งทำให้คนไทยเองเข้าใจว่าแมวนี้มาจากต่างประเทศ !!

---